สำนักงานประมงจังหวัดหนองคาย ตรวจสอบการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ พร้อมประชาสัมพันธ์การทำประมงในช่วงฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ หรือวางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ฯ ตามประกาศกรมประมง ป้องกันผลกระทบกับการขยายพันธุ์ของปลาในฤดูน้ำหลาก
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2563 ที่ผ่านมา นายสุริยา จงโยธา ประมงจังหวัดหนองคาย มอบหมายให้ นายชนวีร์ ฉัตรทิน หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง ลงพื้นที่ร่วมกับ นายบัลดล โชติการ ประมงอำเภอท่าบ่อ นางนัยน์ปพร ศาลาแก้ว ประมงอำเภอศรีเชียงใหม่ พร้อมด้วย นางสาวกัญญาภัทร สารีผล เจ้าพนักงานประมงปฏิบัติงาน และนายกสิภัทร สำรวมรัมย์ เจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดหนองคาย เข้าประชาสัมพันธ์การทำประมงในช่วงฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ หรือวางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ฯ ตามประกาศกรมประมง ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 ณ หมู่ที่ 1 และ 2 ตำบลนาข่า อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย จากนั้น เข้าตรวจสอบการทำประมงที่ผิดกฎหมายตามที่ได้รับแจ้ง ในลำน้ำห้วยโมงพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลนาข่า อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย โดยมีผู้นำชุมชนในพื้นที่ร่วมตรวจสอบ
เบื้องต้น พบหลักที่กางกั้นลำน้ำ จำนวน 5 จุด แต่ไม่มีอวนประกอบกางกั้น และพบผู้จับสัตว์น้ำด้วยการหาหอยขม กับใช้ข่ายความยาวประมาณ 5 เมตรทำการดักปลา แต่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่รอยต่อจังหวัดอุดรธานี จึงได้แจ้งเตือนให้ทราบและเก็บเครื่องมือดังกล่าว และจะเข้าตรวจสอบ ควบคุมต่อไป
นายสุริยา จงโยธา ประมงจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า สิ่งกีดขวางที่ชาวบ้านสร้างในลำห้วยโมงถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย พระราชกำหนดการประมง 2558 มาตรา 63 ที่เขียนไว้ว่า ห้ามผู้ใดวางขวางกั้น หรือทำเป็นแนวกันตลิ่ง อวน เพื่อกั้นทางเดินของสัตว์น้ำ หรือส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำ ซึ่งปกติในฤดูน้ำหลากพ่อ-แม่พันธุ์ปลาจะว่ายทวนน้ำขึ้นไปผสมพันธุ์และวางไข่ที่ต้นน้ำ เจริญเติบโตเป็นทรัพยากรสัตว์น้ำให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้บริโภคใช้ร่วมกัน แต่มีประชาชนบางคนที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์มาสร้างสิ่งกีดขวางพ่อ-แม่พันธุ์ปลา
ประมงจังหวัดหนองคาย กล่าวต่อไปว่า ทรัพยากรประมงเป็นของประชาชนชาวไทยทุกคน ที่จะต้องร่วมกันอนุรักษ์ดูแล ร่วมกันรักษา และร่วมกันจัดสรรประโยชน์ให้ทั่วถึงกัน ซึ่งการอนุรักษ์ไม่ใช่การเก็บรักษาไว้โดยที่ไม่ใช้ประโยชน์ แต่เป็นการจัดสรรทรัพยากรทางการประมงให้กับคนได้มากที่สุด นานที่สุด โดยทุกคนมีส่วนที่จะเข้าถึงได้ ภายใต้ความเอื้อเฟื้อและความมีน้ำใจให้แก่กัน ไม่ใช่ใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือคนใดคนหนึ่งได้ผลประโยชน์
สำหรับการการปักเสาไว้ในลำห้วย รื้อถอนได้ง่ายในฤดูแล้งที่น้ำลด หากไม่มีการรื้อถอนเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก ผู้กระทำความผิดหรือผู้ที่อยากได้สัตว์น้ำก็จะนำอุปกรณ์จับปลาทั้งอวนและโพงพางมาดักมากั้นเพื่อจับปลา ซึ่งจะทำให้พ่อ-แม่พันธุ์ปลาที่จะผลิตลูกปลาสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับแหล่งน้ำถูกจับหรือถูกใช้ประโยชน์อย่างที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น สำหรับลำห้วยโมงถือเป็นลำห้วยสาขาขนาดใหญ่ของแม่น้ำโขง เมื่อถึงช่วงที่น้ำในแม่น้ำโขงมีระดับสูง ประกอบกับน้ำในลำห้วยโมงไหลลงในแม่น้ำโขง ก็จะทำให้ปลาในแม่น้ำโขงว่ายสวนกระแสน้ำเพื่อไปหาน้ำใหม่หรือไปหาต้นน้ำ เพื่อผสมพันธุ์และวางไข่ ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูง
นายสุริยา จงโยธา ประมงจังหวัดหนองคาย ได้ฝากถึงประชาชนชาวหนองคายว่า กรมประมงดีใจ ที่ประชาชนชื่นชอบสัตว์น้ำ นิยมบริโภค และจับสัตว์น้ำ ถือเป็นความภูมิใจของกรมประมงที่ได้ทำหน้าที่ แต่ความอุดมสมบูรณ์ด้านการประมงควรจะได้มีการแบ่งปันให้กับทุกคน ผู้ที่มีความเข้าใจว่าการดักจับปลาในลำห้วยโดยใช้การสร้างสิ่งกีดขวางแล้วกลุ่มของตนหรือตนได้ประโยชน์เท่านั้น แต่ทำให้ความอุดมสมบูรณ์ไม่ขยายไปถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จึงควรจับปลาในวิธีที่ถูกต้อง เครื่องมือจับปลาที่ห้ามใช้ ฤดูกาลที่ห้ามจับปลา หรือในบางพื้นที่ ๆ ห้ามจับปลา ทุกคนก็ควรร่วมกันอนุรักษ์.
June 12, 2020 at 01:07PM
https://ift.tt/3fl7its
สำนักงานประมงจังหวัดหนองคาย ตรวจสอบการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ - สยามรัฐ
https://ift.tt/2MvaNkz
Bagikan Berita Ini
0 Response to "สำนักงานประมงจังหวัดหนองคาย ตรวจสอบการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ - สยามรัฐ"
Post a Comment